Home

วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด หนังเต็ม ประเทศไทย (2024)

-30%

วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด หนังเต็ม ประเทศไทย (2024)

Availability:   In Stock

10.00Rp 7.00Rp
Without Tax 7.00Rp

วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด หนังเต็ม ประเทศไทย (2024)

Civil War (2024)

Stream Free Movies & TV Shows Browse and Watch all your favorite online movies & series for free!

ไต้หวัน ₦Ø.1 HD ของแท้ ดูออนไลน์ | 460฿ - 720฿ - 1080฿ - ฿ⱤⱤłRM - ĐVDoⱤłRM - 4₭ɄⱧđ


ดูออนไลน์หนัง  ▶ วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด หนังเต็ม ประเทศไทย (2024)


11 April 2024

วิบัติสมรภูมิเมืองเดือด

แอ็คชัน , ชีวิต

109 นาที

  

เรื่องย่อ

คือแม้จะบ่นเบื่อหนังซุปเปอร์ฮีโร่ที่ออกมาถี่กว่าไอศครีมกูลิโกะเสียอีก แต่คงไม่มีใครเถียงเรื่องความสนุกสำหรับ Captain America : Civil War(2016) ที่หลายคนอาจจะยกให้เป็นหนังซุปเปอร์ฮีโร่ “มาร์เวล” ที่ดีที่สุดที่เคยสร้างมา กับเนื้อเรื่องที่ดูสดใหม่ที่เอาซุปเปอร์ฮีโร่มาตีกันกันเอง กับบทที่ยากแก่การคาดเดาว่าจะนำทางไปไหน ไปจนถึงการเกลี่ยบทให้ซุปเปอร์ฮีโร่แก๊งนี้ ทั้งตัวละครหลักอย่าง กัปตันอเมริกา กับไอรอนแมน และลูกทีมอย่าง แบล็กวิโดว์, วินเทอร์โซลเยอร์, ฟอลคอน, วอร์แมชชีน, ฮอว์คอาย, แบล็คแพนเทอร์, สการ์เลตวิตช์, วิชั่น, แอนท์-แมน และสไปเดอร์-แมน มีบทบาทที่เด่นในรูปแบบของตัวเองแตกต่างกันไป เหล่านี้ทำให้ Captain America : Civil War กลายเป็นหนังทำเงินหนักมากรับไตรมาสที่สองของปี 2016 อย่างไม่ต้องสืบ


ประเด็นที่น่าสนใจมีมาตั้งแต่ก่อนที่หนังจะเข้าฉาย นั่นคือการเลือกว่าเราจะอยู่ “ทีม” ใครในสองฝั่งของความขัดแย้ง ที่ฝั่งหนึ่งคือ “ทีมกัปตันอเมริกา” กับอีกฝั่งหนึ่งคือ “ทีมไอรอนแมน” ซึ่งจะเลือกจากการกรี๊ดไปกับกล้ามปูของคริส อีแวนส์ ผู้รับบทเป็นกัปตันอเมริกา หรือจะกรี๊ดกับความหล่อแบบเก๋า ๆ ของโรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ กับบทไอร่อนแมน สาว ๆ ก็เอาทีสบายใจกันเลยจ้า


แต่หากอยากเลือกทีมจากกรอบ “ความชอบธรรมทางการเมือง” ที่โฟกัสในเรื่องการใช้อำนาจที่ชอบธรรม กลับมีรายละเอียดมากมายที่ชวนให้พิจารณาว่า กับหลักการทางการเมืองแล้ว หากอย่างอยู่ในฝั่งที่”เมกเซ้นส์” ควรจะเลือกอยู่กับ “ทีม” ใคร?


แรกเริ่มเดิมที หากจะใช้หลักเกณฑ์นี้ในการเลือกทีม บอกตามตรงผมไม่ไว้ใจทั้งกัปตันอเมริกา และไอร่อนแมน ทางฝั่งอเมริกา โดยเนเจอร์แล้วคือ ทหาร ไม่อาจจะพ้นวิธีคิดแบบทหารในมุมของความคิดที่ว่า ตัวเองเป็น “ฮีโร่เอกชน” ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างได้ด้วยตัวเอง ขอเวลาอีกไม่นานแล้วแผ่นดินที่งดงามจะคืนกลับมา ซึ่งเราคงเห็นในหลาย ๆ ประเทศแล้วว่า บ้านเมืองที่ปกครองด้วยทหารมันไม่เวิร์คขนาดไหน


 มองไปทางฝั่งของพ่อโทนี่ สตาร์ค หรือพ่อไอรอนแมนนั่นเล่า นี่ก็เป็นอดีตพ่อค้าอาวุธ ที่วางมือจากการขายอาวุธมาพัฒนาเทคโนโลยีในการช่วยเหลืออาวุธ ตอนแรกเหมือนจะดี หากไม่ติดว่าอีโก้สูงและมักจะนำปัญหามาสู่ทีมอะเวนเจอร์ส อยู่บ่อยครั้ง (หากยังจำหนังในจักรวาลมาร์เวลที่ผ่าน ๆ มาจะเห็นเห็นว่าไอร่อนแมนนั้น “ป่วน” ขนาดไหน)

 

ทีว่ามาอย่างไรเสียมันก็คือข้อดีข้อด้อยในส่วนของปัจเจก แต่หากเราจะมาพิจารณาในส่วนของการตัดสินใจทางการเมืองในฐานะ “ซุปเปอร์ฮีโร่” ผมว่า Captain America : Civil War สร้างเงื่อนไขของเรื่องได้อย่างน่าสนใจตรงที่มุมมองของมนุษย์ธรรมดาที่มองมาที่ซุปเปอร์ฮีโร่ มันไม่ได้มีแต่มุมมองของความเป็น “พระเจ้า” ที่คอยประทานความช่วยเหลือต่าง ๆ ให้กับโลกมนุษย์อีกต่อไปแล้ว แต่กลับกลายเป็นภาพลบในหลายระดับตั้งแต่การที่ซุปเปอร์ฮีโร่ตั้งตัวเป็น “ศาลเตี้ย” แล้วใช้อำนาจเกินขอบเขตนิติรัฐในการรักษาความสงบในสังคมซึ่งในหลายครั้งการตัดสินใจที่ผิด ๆ นำมาซึ่งความสูญเสียมากกว่าการช่วยเหลือ อีกทั้งเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ที่เกิดเป็นดอกเห็ดยังมีความเป็นไปได้ที่จะดึงดูดความเลวร้ายมาสู่โลก


มันจึงนำไปสู่ความคิดที่จะจำกัด “อำนาจ” ของซูเปอร์ฮีโร่ผ่านทางกฎหมายเพื่อคอยควบคุมพลังที่เกินขีดของมนุษย์ ชวนให้คิดถึงภาพยนตร์ซุเปอร์ฮีโร่จากฝั่ง “ดีซี” อย่าง Batman V Superman : Dawn of Justice(2016) มีความคล้ายคลึงกับ Captain America : Civil War ตรงที่ปมเริ่มต้นมาจากความต้องการที่จะจำกัดอำนาจอันล้นเหลือเทียมพระเจ้าของซูเปอร์แมนเพราะหลายครั้งมันนำมาซึ่งความสูญเสียมากกว่าที่จะเป็นการป้องกัน “มนุษย์ผิดพลาดได้เสมอ” วินิจฉัยของซูเปอร์ฮีโร่ก็คงจะไม่แตกต่างกันกับประโยคดังกล่าวเท่าใดนัก


ใน Captain America : Civil War จึงมีการออก “สนธิสัญญาโซโคเวีย” เพื่อควบคุมปฏิบัติการของเหล่าอะเวนเจอร์ส จากเดิมที่เป็นองค์กรอิสระ มาเป็นกลุ่มคนที่ถูกควบคุมโดยสหประชาชาติ การปฏิบัติการทุกอย่างขึ้นอยู่กับความมติเห็นชอบจากยูเอ็น นั่นหมายถึงว่า สนธิสัญญานี้จะจำกัดอำนาจของซูเปอร์ฮีโร่ซึ่งนั่นเป็นการขยายปมมาสู่ความขัดแย้งในการ “คิดต่าง” ของซูเปอร์ฮีโร่ทั้งสองกลุ่ม


กลุ่มแรกคือกลุ่มของ “ไอรอนแมน” ที่เห็นด้วยและลงนามในสนธิสัญญานี้ เพราะเห็นว่า อำนาจที่เกินขอบเขต หากการปฏิบัติการนั้นผิดพลาด อาจจะทำให้เกิดความสูญเสียที่ไม่คาดคิดเฉกเช่นเดียวกันกับปฏิบัติการของไอร่อนแมนที่ทำให้เด็กหนุ่มอนาคตไกลต้องเสียชีวิตในขณะทำงานอาสาที่โซโคเวีย


อีกฝั่งคือ “กัปตันอเมริกา” ที่ลังเลใจจะลงนามในสนธิสัญญานี้ด้วยการมองว่า หากถูกแทรกแซงจากองค์กรโลกบาลอย่างสหประชาชาติ ตนเองอาจจะไม่ได้ช่วยเหลือมนุษย์ในเรื่องที่ควรช่วยเหลือ หรืออาจะช่วยเหลือได้ไม่ทันท่วงทีเพราะต้องรอคำสั่งจากสหประชาชาติซึ่งมีความเป็นไปได้ที่จะเอนเอียงเพราะมันเป็นการตัดสินใจผ่านบุคคลผู้มีอำนาจเช่นเดียวกัน


เราอาจจะมองในมุมนี้ว่า ตัวของกัปตันอเมริกา เชื่อในวิจารณญาณส่วนบุคคลมากกว่าเชื่อในเรื่องการทำตาม “กฎการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ” ซึ่งไม่รู้จะอนุมานได้หรือเปล่าว่ามันคือความเชื่อมั่นในแบบทหารที่มองว่าตัวเองเป็นฮีโร่ เหมือนกับที่ไอร่อนแมนแขวะกัปตันว่า ทำผิดแต่ชอบคิดว่าตัวเองถูก ซึ่งในแง่นี้มองแบบผิวเผินจะเห็นว่าหลักคิดของกัปตันอเมริกาดูจะเอนเอียงไปจากหลักการ “ความชอบธรรมทางการเมือง” แต่บทหนังกลับนำไปสู่การชี้ให้เห็นว่า แม้แต่เรื่องการวางระบบในการอยู่ร่วมกันในแบบนี้อาจจะไม่ถูกต้องทั้งหมดก็ท้ายเพราะสุดท้ายมันต้องใช้การตัดสินใจส่วนบุคคลมาประกอบ, ซึ่งก็มีผิดพลาดได้


#Major Group

Rating:    Bad           Good
Note: Plain text only!

Recommended for you